เมนู

ภควโต ลาภันตรายปัญหา ที่ 5


สมเด็จพระเจ้ามิลินท์ภูมินราธิบดี มีพระราชโองการตรัสถามพระนาคเสนว่า ภนฺเต
นาคเส
น ข้าแต่พระนาคเสนผู้ปรีชา พระผู้เป็นเจ้าว่า สมเด็จพระศาสาดจารย์เจ้าของเรานี้
ประกอบด้วยลาภที่จะได้จตุปัจจัย 4 คือ จีวร บิณฑบาต เสนาสนะ และคิลานเภสัช ปัจจัยทั้ง
4 ประการนี้ ว่าฉะนี้แล้ว ปุน จ มาอีกเล่า พระผู้เป็นเจ้า ครั้งเมื่อพระศรีสุคตเข้าไป
บิณฑบาตที่บ้านปัญจสาลพราหมณ์นั้น หามได้จังหันบิณฑบาตไม่ เสด็จทรงบาตรเปล่าออกมา
นี่แลถ้าสมเด็จพระศรีสุคตทศพลญาณไม่ขาดลาภสักการะ ควรจะได้จตุปัจจัย 4 แล้ว คำที่
ว่าสมเด็จพระศรีสุคตทศพลญาณ เสด็จโคจรเข้าไปสู่บ้านปัญจสาลพราหมณ์ เพื่อจะบิณฑบาต
ไม่ได้จังหันเสด็จกลับบาตรเปล่ามา มิจฺฉา คำที่ว่านี้ผิด ถ้าจะถือเอาคำที่ว่าสมเด็จพระมหา
กรุณาเจ้า เข้าไปโคจรบิณฑบาตในบ้านปัญจสาลพราหมณ์ไม่ได้อาหารบิณฑบาต เสด็จกลับ
ก็ผิด อยํ ปญฺโห อันว่าปัญหานี้ สุมหนฺโต ใหญ่ก็ดี ทุนฺนิโพโธ จะนำคำอุปมาเข้ามาให้รู้
เป็นอันยาก อุภโต โกฏิโก เป็นสองเงื่อนอยู่ นิมนต์โปรดวิสัชนาให้สิ้นวิมัติกังขาของโยมก่อน
พระนาคเสนจึงถวายพระพรว่า มหาราช ขอถวายพระพรบพิตรพระราชสมภาร
สมเด็จพระทศพลญาณเจ้า ลาภี มีปรกติควรจะได้ลาภสักการะจตุปัจจัยทั้ง 4 มิได้รู้ขาด และ
วันเมื่อสมเด็จพระบรมโลกนาถเสด็จเข้าไปทรงบาตรในบ้านปัญจสาลพราหมณ์ ไม่ได้ซึ่ง
อาหารบิณฑบาต เสด็จทรงบาตรเปล่ามานั้น เป็นเหตุด้วยพระยามารกระทำ พระยามารนั้นมี
ใจริษยาสามานย์
สมเด็จพระเจ้ามิลินท์ภูมินทราธิบดี มีพระราชโองการถามว่า ถ้าว่ามารยังกระทำผจญ
กุศลได้ กุศลบารมีที่พระองค์สร้างมาจะคณนาบ่มิได้ในกัลป์อันล่วงไปแล้ว จะมิยังหาสำเร็จไม่
เช่นนั้นหรือ
พระนาคเสนจึงวิสัชนาแก้ไขว่า มหาราช ขอถวายพระพร กุศลพระทศพลสร้างมา
จะไม่สำเร็จนั้นหาบ่มิได้ มารนั้นมาเบียดเบียนด้วยกำลังใจอกุศลกล้าหาญ
พระเจ้ามิลินท์มีพระราชโองการตรัสว่า ถ้าพระผู้เป็นเจ้าว่าฉะนี้ คำติเตียนก็จะมี
มาสองประการ ว่าอกุศลกล้ากว่ากุศล ด้วยว่าพระพุทธเจ้าเป็นฝ่ายกุศล มารเป็นฝ่ายข้าง
อกุศลประการหนึ่ง ติเตียนว่า สมเด็จพระพุทธนี้ มีกำลังน้อยกว่ามาร มารมีกำลังมากกว่า
พระพุทธเจ้า คำติเตียนทั้งสองว่า พระผู้เป็นเจ้าแก้ไขให้แจ้งก่อน ปลายไม้หรือจะหนักกว่าโคนไม้
คนที่ชั่วช้าสามานย์หรือจะมีกำลังกว่าคนที่มีคุณธรรมประจำสันดาน ไม่เห็นบังควรเลย